3 อันดับร้านส้มตำเมนูที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ในใจแอดมิน
- น้ำพริกอร่อยจุง
- Oct 31, 2019
- 2 min read
หากพูดถึงส้มตำแล้วเชื่อว่าหากถามใครก็คงต้องบอกว่าชอบทานเพราะเป็นอาหารที่เรียกได้ว่าฮิตที่สุดในหมู่คนไทย แต่เนื่องจากกระแสนิยมของการกินส้มตำนั้นล้นหลามจึงทำให้พ่อค้าแม่ค้าแห่แหนกันเปิดร้านส้มตำทั้งร้านริมทางหรือร้านในห้างสรรพสินค้าดังนั้นผู้บริโภคอย่างเราจึงมีตัวเลือกที่เยอะจนกระทั่งไม่รู้ว่าจะเลือกอะไรดี วันนี้บทความของเราจะมานำเสนอสุดยอดร้านส้มตำที่ดีที่สุดไปดูกันเลย
สิ่งที่จะใช้ในการเลือกร้านส้มตำที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯของคุณ มีดังนี้
(1) ความสะอาดของร้าน
ร้านส้มตำยอดนิยมต้องสะอาด พื้น ผนังเพดานอยู่ในลักษณะที่สะอาด เก็บข้าวของเป็นระเบียบเรียบร้อย บริเวณปรุงอาหารและบริเวณที่ล้างภาชนะ อุปกรณ์ต้องอยู่ในลักษณะสะอาด ยิ่งอยู่สูงจากพื้นอย่างน้อยสัก 60 เซนติเมตรยิ่งดีใหญ่ ถ้าร้านแช่อาหารสดไว้ในถังน้ำแข็ง ต้องแยกถังน้ำแข็งสำหรับกินกับถังที่แช่อาหารสดออกจากกัน เพราะเนื้อสัตว์ที่ยังไม่ได้ปรุงตลอดจนผักสดต่างๆอาจมีเชื้อก่อโรคหรือพยาธิปะปนอยู่ ความร้อนจากการปรุงจะทำลายเชื้อเหล่านี้ได้ แต่หากเนื้อสัตว์ดิบสัมผัสกับน้ำแข็ง การปนเปื้อนเชื้อก่อนโรคเข้าสู่ร่างกาย อาจก่อให้เกิดอันตรายมากกว่าที่คิดก็ได้ ส่วนในด้านของห้องน้ำควรสะอาด มีสบู่และน้ำเพียงพอต่อการล้างมือ
(2) ผู้ขายต้องดูดี สะอาดสะอ้าน
สิ่งหนึ่งที่จะรู้ว่าร้านส้มตำนั้นสะอาดหรือไม่ ให้ดูได้ที่การแต่งกายของผู้ขาย หรือผู้ที่ต้องสัมผัสกับอาหารก่อนถึงมือเรา ผู้ซึ่งควรแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่สะอาด รัดกุม ไม่ใส่เครื่องประดับที่อาจหลุดร่วงลงในอาหารใส่หมวกหรือเน็ตคลุมผม ป้องกันผม เหงื่อหรือสิ่งอื่นหลุดร่วงลงไปในอาหาร อาจใส่หน้ากากอนามัยเพื่อปิดปาก เพื่อป้องกันการไอ จาม ลงไปในอาหาร ควรมีอุปกรณ์ช่วยในการสัมผัสอาหารไม่ใช่มือหยิบจับอาหารโดยตรง กรณีที่ผู้ปรุงหรือสัมผัสอาหารมีบาดแผล ควรปกปิดบาดแผลด้วย
(3) อุปกรณ์ทำอาหาร อุปกรณ์ประกอบอาหารรวมถึงเครื่องครัวทั้งหมดต้องสะอาด
ร้านส้มตำยอดนิยมต้องสะอาดตั้งแต่กระบวนการล้างไปจนถึงการเก็บ โดยให้สังเกตอุปกรณ์ที่ทำความสะอาดแล้ว โดยสังเกตง่ายๆ เช่น ช้อน ส้อม จาน ชาม ต้องสะอาดไม่เป็นมัน ตะกร้าหรืออุปกรณ์ที่ใส่ควรมีลักษณะโปร่ง เพื่อไม่ให้มีน้ำขังอยู่ภายใน จาน ชาม หรือแก้วน้ำต้องอยู่ในลักษณะคว่ำป้องกันฝุ่น แมลง หรือสิ่งปนเปื้อนอื่นสัมผัสกับจานหรือชามนั้นๆ
(4) ความอร่อย
ร้านส้มตำที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯต้องมีความอร่อยมาอันดับ 1 โดยสามารถสังเกตได้จากจำนวนลูกค้าในร้าน การต่อแถวรอ การรีวิว การบอกต่อ หรือการไปออกรายการโทรทัศน์ เป็นต้น
(5) มีป้ายรับรองคุณภาพอาหารต่างๆ
ร้านส้มตำยอดนิยมควรมีป้ายอาหารปลอดภัยนื่องจากมีหน่วยงานจำนวนมาก ที่อยู่ภายใต้สังกัดของกระทรวงสาธารณสุขให้ความสำคัญกับสุขภาพของคนไทยในชีวิตประจำวัน จึงมีการกำหนดมาตรฐานของร้านอาหาร เมื่อร้านใดผ่านเกณฑ์ก็จะมีเครื่องหมายรับรองกำกับไว้ อย่างน้อยที่สุดก็เป็นการรับรองคุณภาพของอาหารประจำว่า ปลอดภัยกับสุขภาพเรา นอกจากนี้อาจเป็นป้ายแม่ช้อยนางรำ อะไรประมาณนี้ยิ่งดีใหญ่
(6) ราคาสมคุณภาพ
ร้านส้มตำยอดนิยมควรมีราคาที่เหมาะสม ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป เพราะหากราคาถูกมากอาจเกี่ยวกับมาตรฐานของอาหารได้
3 อันดับร้านส้มตำที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ
Zaap One Ratchada

ร้านแรกขอไปที่ร้านแซ่บวันรัชดา ซึ่งฝีมือเขาไม่ธรรมดาเลยจริงๆ นอกจากจะเป็นร้านอาหารอีสานรสเด็ดขวัญใจคนย่านถนนรัชดาฯ แล้ว คนจากพื้นที่อื่นๆ ก็มักจะมาแวะเวียนไปเป็นลูกค้าให้ร้านได้คึกคักอยู่เสมอ ตั้งแต่เริ่มเปิดร้านตอนสายๆ ไปถึงตอนเย็นหลังเลิกงานยิ่งแน่นไปใหญ่ งานนี้เรียกว่าอร่อยจริงอะไรจริงจนได้ไปออกรายการครัวคุณต๋อยมาแล้ว
สำหรับเมนูเด็ดของร้านนี้เห็นจะเป็น ส้มตำไทย ส้มตำไทยไข่เค็ม ส้มตำปูปลาร้า ส้มตำปูม้า ส้มตำหอยดอง สำหรับเมนูขึ้นชื่อจริงๆ ขายดีที่สุดต้อง ตำซั่ว เป็นสูตรเฉพาะไม่เหมือนใคร ซึ่งปกติมีขนมจีนและผัก แต่ที่ร้านเพิ่มปลา กรอบเข้าไปและโรยด้วยกากหมูกับถั่วงอกด้านบน เป็นสูตรที่คิดค้นขึ้นมาเอง เมื่อเพิ่มรสเค็มเข้าไป เนื้อปลาและกากหมูทำให้ตำซั่วนี้รสชาติกลมกล่อมมากขึ้น ไม่ใช่จะเผ็ดเพียงอย่างเดียว เพราะรสชาติส้มตำจะเน้นรสจัด แต่ถ้าลูกค้าไม่ชอบก็บอกได้ หรือถ้าใครไม่พอใจในรสชาติก็คืนได้ ทางร้านจะตำให้ใหม่ทันทีโดยไม่คิดเงิน สำหรับเมนูกินแกล้มด้วยกัน ได้แก่ ปลาทับทิมเผาเกลือ ไก่ย่าง คอหมูย่าง โดย ผ่านกรรมวิธีการหมักของทางร้าน รวมถึงน้ำจิ้มต่างๆ ที่ทำเอง ร่วมกันกับเนื้อปลาหรือเนื้อไก่ที่หนานุ่มข้าวเหนียวร้อนๆ รับรองลูกค้าต้องติดใจ อาหารของร้านจะเน้นความสะอาด สด ใหม่เท่านั้น ถึงจะเป็นแค่ ร้านส้มตำ ธรรมดา แต่ถ้าไปเจอช่วงไพร์มไทม์ เที่ยง หรือ หลังเลิกงาน นี่ต้องรับบัตรคิวรอกันยาวๆ เลยทีเดียว ใครอยากลิ้มลองตำนานความแซ่บ ก็ไปลองที่ร้านกันได้เลยรับประกันว่า ไม่มีผิดหวังกลับบ้านแน่นอน โดยตอนนี้มีสาขาถึง 4 สาขาเลยทีเดียวพิกัด : สาขา 1 : แยกเทียมร่วมมิตร (ตรงข้ามบิ๊กซี รัชดา) สาขา 2 : ใกล้ห้างเอสพละนาด รัชดา สาขา 3 : รัชดา ซอย 4 สาขา 4 : รามคำแหง 127
ร้านเปิดบริการ : 10.00-23.00 น.
เว็บไซต์ : facebook.com/zabbone
หมายเลขโทรศัพท์: 08-1751-3181
Nittaya Kai Yang

ร้านอร่อยชื่อดัง ที่ปังและแซ่บมาก อย่าง นิตยาไก่ย่าง ที่มีหลายสาขาทั่วกรุงเทพฯ การันตีความอร่อยเด็ดยาวนานมาเป็น 10 ปี มีทั้งอาหารไทย และอาหารอีสานหลายเมนู ภายในร้านยังสะอาด นั่งสบายอีกด้วย เหมาะกับมื้อร่อยของครอบครัวมากๆ ทีเดียว ซึ่งร้านนิตยาบอกว่า อาหารอร่อย มาจากพื้นฐานการเลือกใช้วัตถุดิบอย่างดี เพราะเชื่อว่าอาหารจะอร่อยได้ ต้องมาจากวัตถุดิบที่ดีที่สุด ผสมผสานกับรสชาติที่ลงตัว เพราะรู้แหล่งจึงได้ของดี และวัตถุดิบที่ดีมาปรุงอาหาร เพราะรู้ขนาดจึงได้ของดี ประเภทเนื้อสัตว์ที่เหมาะสมกับการประกอบอาหารแต่ละชนิด เพราะรักและมีความสุขที่ได้ให้บริการสำหรับคุณ เพราะ คุณ คือลูกค้าคนสำคัญ
สำหรับเมนูเด็ดก็เช่น ส้มตำปูปลาร้า ,ตำข้าวโพด, ปลากระพงทอดน้ำปลา, น้ำพริกหนุ่ม+ไส้อั่ว+ผักลวก+แคบหมู ปลาช่อนริมสวน ,ชะอมผัดวุ้นเส้น, ต้มแซ่บหมูเด้ง, ไก่ย่าง, ต้มแซ่บหมูเด้ง, ชะอมผัดวุ้นเส้น ร้านอาหารที่มีเมนูเด็ดเป็นไก่ย่างร้อนๆ หนังกรอบๆ ปลาตัวใหญ่ อาหารหลากหลายทั้งไทยและอีสาน พนักงานบริการดี อาหารมาเร็ว แล้วแบบนี้จะไม่จัดให้เป็นร้านส้มตำยอดนิยมได้อย่างไร
เวลาปิดเปิด : ทุกวัน 9:30 – 21:30 น.
เว็บไซต์ : nittayakaiyang.com
Facebook: facebook.com/nittayakaiyangofficial
หมายเลขโทรศัพท์: 092-6822980
Praram 9 KaiYang พระราม 9 ไก่ย่าง

มาที่ร้านไก่ย่างสูตรต้นตำรับแสนอร่อย อย่าง พระราม 9 ไก่ย่าง ซึ่งส้มตำก็เด็ดไม่แพ้ใคร นอกจากนี้ยังมี คอหมูย่าง, ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน, ลาบเป็ด, ปลาทับทิมย่างเกลือ, ไส้กรอกอีสาน, ฯลฯ ให้อร่อยกันอีกด้วย หากใครอยากลองอาหารเวียดนาม"แหนมเนือง"ก็มี นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องขนมไทย ไม่ว่าจะเป็นทองม้วนสดมะพร้าวอ่อน วุ้นกะทิ ขนมถ้วย หรือน้ำสมุนไพรไทย น้ำอัญชันมะนาว ที่ต้องบอกเลยว่ารสชาติดีงามมากๆ มาทานกี่ครั้ง กี่หน คุณภาพความอร่อยก็ยังคงเดิม ซึ่งร้านนี้น่าจะเป็นร้านประจำของใครหลายๆ คนอยู่แล้ว ทั้งนี้ เชฟชยานนท์ ต่อสหะกุล หรือ คุณท๊อป ทายาทเจ้าของร้าน ได้เปิดเผยว่าร้านพระรามเก้าไก่ย่าง เปิดมากว่า 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ในยุคต้มยำกุ้ง โดยก่อนหน้านี้้ ครอบครัวทำธุรกิจค้าขายวัสดุก่อสร้าง ซึ่งได้รับผลกระทบค่อนข้างเยอะ แต่คุณพ่อ ปรับตัวได้ทัน พื้นเพท่านเป็นคนจังหวัดอุดร และชอบกิน ไก่บ้านย่างเขาสวนกวาง มาก จึงคิดว่า ถ้านำมาขายที่กรุงเทพฯ ก็น่าจะขายได้ดี ความตั้งใจ คือเปิดเป็นร้านเล็กๆ กางร่มปิ้งกันใต้ต้นไม้ ตรงถนนพระราม9 ซอย 39 คิดว่า ขายกันในราคาไม่แพง คิดว่า ลูกค้าน่าจะเป็นคนทำงาน คนขับแท็กซี่ เป็นหลัก ปรากฏว่า ลูกค้าที่มาอุดหนุนมีความหลากหลาย ลูกค้าขับรถเก๋งหรูๆ มาซื้อกันเยอะ และด้วยรสชาติที่อร่อยถูกปาก ทำให้บอกต่อๆ กันไป จนร้านเติบโตขึ้น ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา
จุดเด่นของ พระราม 9 ไก่ย่าง คือ ความอร่อยได้มาตรฐาน และการให้บริการที่รวดเร็ว แม้ว่าจะมีลูกค้าเข้ามาใช้บริการพร้อมกันเป็นจำนวนมากๆ ก็สามารถรับมือได้เป็นอย่างดี โดยในช่วงเทศกาลต่างๆ ร้านจะเปิดให้บริการตามปกติ ซึ่งจะมีลูกค้ามาอุดหนุนเป็นจำนวนมาก เพราะเชื่อมั่นในคุณภาพความอร่อยที่เหมือนเดิม จนได้ไปออกรายการ SME มือโปร และการให้บริการที่รวดเร็วทันใจนั่นเอง
Comments